| ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ดร.สมไทย วงษ์เจริญ เจ้าของอาณาจักรขยะ มีชีวิตวัยเรียนพิสดารกว่าเด็กในช่วงอายุเดียวกัน ฉีกกฎความรู้ในโรงเรียน มองไปไกลกว่าใคร “บุคคลที่ประสบความสำเร็จเป็นสุดยอดของโลกไม่ได้เรียนในห้องเรียน” บุคคลที่ดร.สมไทย กล่างถึงคือเจ้าชายสิทธัตถะ หรือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่อาศัยโคนต้นศรีมหาโพธิ์เป็นสถานที่บังเกิดความรู้ แง่คิดจากพุทธประวัติที่ศึกษา ทำให้ฉุกคิดว่าถ้าเปลี่ยนโรงเรียน เปลี่ยนวิชา เปลี่ยนครูอาจารย์ไปเรื่อย การเรียนรู้คงเป็นเหมือนดอกหญ้าแพรกที่แตกฉานบานสะพรั่งไม่รู้จบสิ้น การตัดสินใจไปเร็วพร้อมความคิด เขาตัดสินใจเดินออกจากโรงเรียนตอนอายุ 14 ปี สมัยอยู่ม.ศ.3 หรือม.4 แทนที่จะมุ่งหน้าเข้ามหาวิทยาลัยเหมือนคนอื่น เพราะเชื่อว่าปริญญาไม่ได้การันตีว่าจะสอบผ่านวิชาชีวิต วิชาชีวิตจริงจึงเริ่มต้นด้วยงานค้าขาย “เรียนวิชาลองผิดลองถูก เหงื่อไหลเข้าตา เลือดตาแทบกระเด็น ลองค้าขายทุกอย่าง เพราะไม่อยากเป็นมนุษย์เงินเดือน อยากผันตัวเองเข้าสู่ชีวิตการขาย ขายหอม กระเทียม ยังขาดทุนเพราะฝ่อเหลือน้ำหนักน้อยลง ขายเสื้อผ้า แฟชั่นไปต้องเลหลัง ขายล็อตเตอรี่ หนังสือพิมพ์ ขายยา ทำทุกอย่าง” ลองผิดลองถูกกับงานที่ทำก็เกิดคำถามขึ้นในใจ “อยากหาเช้ากินค่ำไปตลอดชีวิตหรือไม่” เมื่อคำตอบคือ “ไม่” บทเรียนต่อไปจึงเริ่มขึ้นในวันที่เดินเข้าวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เมื่อมองไปที่องค์พระพุทธชินราช เห็นลำแสงพุ่งออกมาจากกึ่งกลางพระนลาฏ (หน้าผาก) จึงตั้งจิตอธิษฐานให้พบเส้นทางทำกินสว่างไสว ใครจะไปคิดว่าจุดเริ่มต้นของราชาขยะได้เริ่มขึ้นในวันนั้น เมื่อพบกับป้าสูงวัย ขนขยะใส่สามล้อ และคำตอบก็กระจ่างเมื่อป้าตอบคำถามของเขาที่ว่า “ป้าปรกติดีอยู่หรือเปล่า” ป้าบอกว่า “เอ็งนั่นล่ะไม่ปรกติ รู้หรือเปล่า ขยะในรถเข็นเป็นของมีค่า ขายได้ 200 บาท” มองเห็นลู่ทางดังนั้นจะรอช้าอยู่ใย ขับรถกระบะออกเก็บขยะตามป้าไปในวันนั้น และเริ่มอาชีพค้าของเก่าอย่างจริงจัง “เริ่มต้นจากสิ่งรอบตัวเถวนั้น ป้าเก็บได้ เราก็เก็บได้ คนมายืนดู ไม่เห็นต้องอายอะไร ไม่ได้ทำผิดกฎหมายอะไร” เสียงร้อง “รับซื้อเศษเหล็ก รับซื้อของเก่า เหล็กน็อตเก่า เหล็กตะปูเก่า มีดหัก ขวานบิ่น หม้อรั่ว กาทะลุ ขวดขาว ขวดแดง ขวดเบียร์ ขวดแบน ขวดเหล้า ขวดเล็ก ๆ น้อย ๆ ขวดกระจ้อยร่อยกระจิริด ขวดนิด ๆ หน่อย ๆ ถ้วย ถัง กะละมัง หม้อ ใครมีต้องการแลก โบกมือทักกวักมือเรียกได้เลยจ้า บริการถึงบ้าน” ของเก่าแลกขนมบ้าง ไข่ไก่บ้าง มีรายได้วันละ 800-1,000 บาท หักค่าน้ำมันเหลือกำไรเที่ยวละ 400-500 บาท ขณะที่ราคาทองคำตอนนั้นบาทละ 400 บาท แปลว่าเขาเก็บเศษทองข้างถนนได้ถึงวันละ 2 บาท หนึ่งปีจะได้นับร้อยบาท จึงเดินหน้าทำงานไม่มีวันหยุด ทำให้ฐานะการเงินเริ่มมั่นคงขึ้น แต่การเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อหมดความอดทนกับแป๊ะรับซื้อของเก่าที่หน้าเลือด ตะเพิดใส่เขาบ้าง “สักวันหนึ่ง ถ้าตั้งตัวได้ เราจะบริการลูกค้าทุกอย่าง ลูกค้าจะไม่ได้ยินเสียงเอ็ดตะโร” ดร.สมไทยเช่าบ้านเปิดร้านรับซื้อของเก่าด้วยความขยัน ไม่อายทำกิน กิจการดีขึ้น เริ่มซื้อที่ดิน ตั้งโรงงานคัดแยกขยะ “วงษ์พาณิชย์” เงินทองบนกองขยะ ปัญหาเมื่อขยายกิจการคือขาดบุคลากร คนส่วนมากมองงานคัดแยกขยะเป็นอาชีพไร้เกียรติ ดร.สมไทยพยายามสร้างทัศนคติขึ้นใหม่ว่า “นี่คือกองเงินกองทอง” ไม่ใช่คนบ้าค้าขยะ แต่เป็นเจ้าของเหมืองแร่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และคำว่า “ขยะทองคำ” ก็ได้ปรากฏในสังคมที่จะสร้างความมั่นใจว่า การคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทางสามารถสร้างรายได้อย่างงดงามและขยะไม่มีจริงใน โลก “ตอนเริ่มต้นหายากที่สุด ความหดหู่ของคนที่จะมาทำงานโรงงานขยะ เป็นเรื่องไม่สวยงาม เป็นเรื่องน่าสกปรก เวลามาทำงานกลับบ้านใครถาม ตอบไม่ชัดว่ามาทำงานโรงงานขยะ ไม่เหมือนสมัยนี้มาทำงานกับบริษัทที่ออกสื่อไปกว่าร้อยรายการ เป็นความภาคภูมิใจ แต่กว่าจะถึงวันนี้ต้องต่อสู้ ฝ่าฟันกับการสร้างทัศนคติให้กับพนักงานในองค์กร การสร้างภาพลักษณ์ในองค์กรให้เกิดความตระหนัก ประทับใจ ทราบซึ้งใจ ให้มีความรัก ความหวงแหนในวงษ์พาณิชย์” ![]() “จะไล่พนักงานออกสักคนยากเย็นที่สุด ขโมยของในโรงงานยังไม่ให้ออกเลย เราต้องบอกเขาว่าเดือดร้อนอะไร ทุกข์ใจเรื่องอะไรถึงได้ทำแบบนี้ มีทางแก้ก็บอกเขาไป ต้องให้อภัย ไม่มีเลยที่พนักงานทุจริต ลักทรัพย์ แล้วจับติดคุกติดตาราง เราไม่รู้หรอกว่าครอบครัวเขาที่บ้านล่ะ ลูกตาดำ ๆ ที่บ้าน พ่อเขาต้องติดคุกเพราะฝีมือของเรา สุดท้ายต้องอภัย คุยกัน สอนให้คนดีเป็นคนดี สอนคนเก่งเป็นคนเก่ง เป็นเรื่องง่าย แต่สอนให้คนไม่เก่งมีความเก่ง สอนให้คนไม่ดีเป็นคนดีได้ นี่คืองานท้าทายของเรา สอนคนพิการให้เป็นคนปรกติ คนที่เคยต้องโทษต้องคดีให้ฟื้นความจำกลายเป็นคนดีขึ้นมาได้ นี่คือสิ่งที่อยากทำมากที่สุด” ดร.สมไทย ในวัยเด็กหยุดเรียนเพื่อค้นหาความจริงของชีวิต แต่ไม่คิดทิ้งการเรียน ทำงานไปเรียนไปจนจบศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน และเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย ทำจริง เหนื่อยจริงจนประสบความสำเร็จได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษา UNDP ประจำประเทศสาธารณรัฐประชาชนลาว ด้านการจัดการขยะรีไซเคิล และสิ่งแวดล้อม ณ สำนักงาน UNDP นครเวียงจันทร์ เมื่อปี 2546 ตำแหน่งทางสังคมในประเทศ ไทย ได้รับภารกิจสำคัญหลายงาน เช่น ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา คณะกรรมการตัดสินโครงการธนาคารวัสดุรีไซเคิลเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลเกียรติคุณจำนวนมาก อาทิ พลเมืองไทยที่ทรงคุณค่าสาขาสิ่งแวดล้อม ผู้มีส่วนสำคัญและใส่ใจปัญหาขยะล้นโลกจาก จากสถาบันพัฒนาสี่แยกอินโดจีน รางวัล Yonok Northern Management Awards (YNMA) ประเภทธุรกิจการค้าขนาดย่อม ด้านนวัตกรรมดีเด่น ประกาศเกียรติคุณ “สุดยอดนักสิ่งแวดล้อม” และบุคคลดีเด่นด้าน “องค์กรดีเด่น” ![]() เครือข่ายแฟรนไชส์ 584 สาขา ดร.สมไทย ใช้ความรู้ที่มีสร้างโอกาสให้คนอื่นเป็นเครือข่ายแฟรนไชส์ “วงษ์พาณิชย์” ไม่มีค่าแรกเข้า หรือค่ารอยัลตีฟี เน้นเรื่องเดียวต้องทำงานบนพื้นฐานความถูกต้องเป็นธรรม “คนมาอบรมมีตั้งแต่มือเปล่า หนี้สินล้นพ้นตัว ฆ่าตัวตาย อบรมกลับไปประสบความสำเร็จไหม ผมไม่อยากใช้คำว่าประสบความสำเร็จ เพราะหมายถึงสิ้นสุดแล้ว ผมอยากบอกว่าเขามีกินทั้งครอบครัวทั้งลูกหลานเหลน เป็นวิชาอมตะใช้ได้ตลอดชีวิต ตราบใดที่คนต้องบริโภคแล้วต้องทิ้งขยะ” หลักการที่ดร.สมไทยใช้คือหลักการค้า ไม่ใช่หลักการวางแผนธุรกิจ เพราะมั่นใจว่าวิชาการถ้ารู้จักบวกวิชากิน จะตกผลึกเป็นพลังบวกที่โลกจำกัดความคิดของเราไม่ได้ “วงษ์พาณิชย์เปิดสอนวิชาชีพมา 11 ปีเต็ม สอนลูกศิษย์ 6,000 กว่าคน ทำมาหากินทั่วประเทศ ให้ความรู้กับคน และผู้ป่วยเอดส์ ทำให้มีความหวังว่าถ้าพึ่งตนเองได้ด้วยสองมือ สองแขน สองขา เขาไม่กลัวอะไรแล้ว พลังในใจที่หลั่งสารออกมาต่อสู้เป็นพลังที่สำคัญที่สุด ทั้งคนป่วย เร่ร่อน ผมให้ทุกอย่างเพื่อให้เขาไปต่อ” คิดแล้วกล้าทำเพื่อความสำเร็จ อุปสรรคของความสำเร็จคือความกลัว ความไม่กล้าหาญ ดร.สมไทยชี้หนทางแห่งความสำเร็จ เมื่อเริ่มคิดแล้วต้องมองให้เห็น มองอย่างผู้มีวิสัยทัศน์ ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวที่จะเผชิญหน้า และกล้าที่จะทำทันที “ต้องรู้จักเริ่ม ผิดไม่เป็นไร แก้ไขได้ บางคนต้องผิดถึงร้อยครั้ง เพื่อหาหนทางที่ถูกหนึ่งครั้ง หลายครั้งที่ผมผิดพลาดพันครั้งเพื่อถูกหนึ่งครั้ง เป็นวิชาลองผิดลองถูก บางครั้งต้องตกเหวบ้าง จมน้ำบ้าง ขึ้นมาอยู่บนถ้ำบ้าง ล้มลุกคลุกคลาน เลือดไหลเข้าตาบ้าง ต้องสู้แบบนี้ถึงเป็นชีวิตจริง” ทุกวันนี้ดร.สมไทย ยังมุ่งมั่นทำงาน เพราะคิดว่าการทำงานคือการพักผ่อนที่ดีที่สุด เขาบอกว่าไม่ทำงานจะป่วยตาย “ผมเกิดปีม้า วิ่งตลอดเวลา ถ้าหยุดวิ่งเมื่อไหร่อาจป่วยก็ได้” เรื่องราวของราชาขยะมีอีกหลายมุมน่าสนใจ หาอ่านได้จากหนังสือ “สัมผัสทองของราชาขยะ” เล่าชีวประวัติตั้งแต่เล็กจนเป็นราชาขยะ ที่มาของโลโก้วงษ์พาณิชย์ แนวคิดการทำธุรกิจ วิธีแยกขยะ การเดินทางเพื่อเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด มุมมองการแก้วิกฤตขยะโลก “เป็นภาคพิสดารที่สามารถทำให้คนอ่านแหวกวงล้อมพันธนาการน้ำเน่าของชีวิต เรื่องราวของลูกนอกคอกหรือเด็กนอกคอกตอนที่ผมถูกอาจารย์ใหญ่ตีหน้าเสาธง ผมเป็นคนนอกลู่นอกทาง ชอบพูดชอบเถียง แต่เถียงแบบมีเหตุผล ไม่ใช่แบบเด็กดื้อ” “การเป็นเด็กนอกคอกผิดตรงไหน คอกมีไว้สำหรับใส่หมู หมา กา ไก่ เราเป็นมนุษย์ จะอยู่ในคอกได้อย่างไร คอกไม่เพียงพอให้ผมอยู่ได้ ผมถูกตีเป็นประจำ เพราะไม่ชอบเรียนในห้องเรียน ออกไปนอกประตูบ้าง ครูพูดซ้ำไปซ้ำมาก็เดินออกไปอีก กลับมายังพูดเรื่องเก่า ไม่รู้จะมาเรียนไปทำไม ทำไมต้องเรียนเหมือน ๆ กัน ทำอะไรซ้ำกัน การแข่งขันก็สูง กำไรน้อย ทุกวันนี้ทำอะไรแข่งขันกันเฉือนเนื้อตัวเอง สู้กันในสนามรบ การทำมาหากินกลายเป็นสีเลือดแดงไปหมดแล้ว ทำไมไม่ออกสู่สนามใหญ่ เช่น ก้าวไปสู่ทะเล หรือมหาสมุทร ที่เรียกว่าบลูโอเชียน ซึ่งยิ่งใหญ่มาก และไร้พรมแดน” ถ้ามีโอกาสได้อ่านหนังสือเล่มนี้ หรือได้พูดคุย หรือได้เข้าอบรมกับดร.สมไทย จะรู้ว่าประสบการณ์ที่ตกผลึกสำหรับคนคิดนอกกรอบเป็นเช่นไร |
สำหรับคนหางาน ทั้งภาครัฐ เอกชน รัฐวิสาหกิจ รวมถึงแนะนำอาชีพ บริษัทชั้นนำ วิธีการสมัครงาน รวมถึงข้อมูลสำหรับสถานประกอบการ บริษัท ที่ต้องการหาบุคลากร เ้ข้าร่วมงาน เราก็มีให้
ค้นหาบล็อกนี้
วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2553
ดร.สมไทย วงษ์เจริญ เงินทองบนกองขยะ
“เรียนวิชาลองผิดลองถูก เลือดตาแทบกระเด็น ลองค้าขายทุกอย่าง เพราะไม่อยากเป็นมนุษย์เงินเดือน"
http://www.ejobeasy.com/kmdetail.php?n=100816105119
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น